ก่อนจะพาลูกไปหาธรรม สิ่งแรกที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องทำคือ การทำความรู้จักกับลูก ๆ ของเราว่าแท้จริงแล้วลูกเป็นคนอย่างไร มีบุคลิก ลักษณะนิสัยแบบไหน มีธรรมชาติอย่างไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่พ่อแม่จะต้องนำไปพิจารณาก่อนจะพาลูกไปพบธรรม
เด็กซุกซน หากลูกหลานเป็นเด็กซุกซน ไฮเปอร์ ชอบทำกิจกรรม ชอบเล่นกีฬา อยู่นิ่ง ๆ ได้ไม่นาน โปรดจงเข้าใจธรรมชาติของเด็กว่า การจะจับเขาไปเริ่มต้นปฏิบัติธรรมในแบบที่เคร่งเครียดเกินไปอาจไม่เหมาะนัก เพราะจะทำให้เขาเครียด อึดอัด เก็บกด จนกระทั่งกลายเป็นเกลียดการปฏิบัติธรรมไปเลยก็ได้ ทางที่ดีควรพาเขาไปเรียนรู้ธรรมโดยเน้นกิจกรรมมากกว่าการนั่งนิ่ง ๆ หรือนั่งฟังบรรยายในห้องเพียงอย่างเดียว เพื่อให้เหมาะกับธรรมชาติการเรียนรู้ของเขา
เด็กเรียบร้อย หากลูกหลานของคุณเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย และเรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้ เขาก็น่าจะเหมาะกับกิจกรรมทางธรรมที่เรียบง่าย ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป และเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้โดยไม่ต้องใช้แรง และไม่ต้องแสดงออกมากนัก เพราะการบังคับให้เขาแสดงออกมาก ๆ อาจจะทำให้เขาไม่สนุก จนถึงขั้นเครียด หรือกดดันได้ เพราะนั่นไม่ใช่นิสัยปกติของเขา
เด็กรักการเรียนรู้ หากลูกหลานของคุณเป็นเด็กที่แคล่วคล่องว่องไว รักการเรียนรู้ ร่าเริงแจ่งใส ปรับตัวได้รวดเร็ว มีเหตุมีผล และเป็นตัวของตัวเอง เด็กกลุ่มนี้จะไม่มีปัญหาเรื่องการปรับตัว และการเข้าสังคมเท่าไร พ่อแม่ผู้ปกครองจึงสามารถให้ความรู้เชิงลึก และเปิดโอกาสให้เขาได้ลองปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังได้ตั้งแต่เริ่มแรก เพราะเด็กกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะเปิดใจพร้อมรับกับสิ่งใหม่ ๆ และสนุกที่จะได้ลองทำในสิ่งที่ยาก ๆ และซับซ้อนมากกว่าเด็กทั่วไป
เด็กเก็บตัว หากลูกหลานของคุณชอบเก็บตัวอยู่เงียบ ๆ คนเดียว เล่นแต่เกมอยู่ในบ้าน ไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่ชอบออกไปเล่นนอกบ้าน มีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม ไม่ค่อยเป็นมิตรกับใคร ไม่ช่างพูดช่างคุย ปรับตัวเข้ากับคนยาก แอบอยู่หลังพ่อแม่ตลอดเวลา ขาดความมั่นใจ และไม่กล้าทำอะไรด้วยตัวเอง เด็กกลุ่มนี้จะมีปัญหาเรื่องการอยู่ร่วมกับผู้อื่น
ดังนั้น การบังคับให้เขาไปปฏิบัติรรมร่วมกับคนอื่นโดยที่พ่อแม่ผู้ปกครองไปด้วยอาจทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัย จนทำให้เกิดพฤติกรรมต่อต้าน ซึ่งจะส่งผลเสียทั้งต่อตัวเด็กเอง และต่อผู้อื่น เช่น เขาอาจจะไปสร้างความเดือดร้อน หรือรบกวนการปฏิบัติธรรมของผู้อื่น เพราะเด็กที่ไม่ค่อยเข้าสังคมจะไม่ค่อยรู้จักความเกรงใจ และมักทำอะไรโดยไม่คิดถึงผู้อื่น คิดเพียงแค่ว่า ทำอย่างไรตัวเองจึงจะออกไปจากสถานการณ์ที่ทำให้เขาอึดอัดอยู่ในขณะนั้น
กิจกรรมทางธรรมที่เหมาะกับเด็กกลุ่มนี้ จึงควรจะเป็นกิจกรรมที่ทำได้พร้อมทั้งครอบครัว เพื่อให้เด็ก ๆ รู้สึกอุ่นใจ ซึ่งจะทำให้เขาเปิดรับธรรมะได้มากกว่าด้วย แต่ก่อนจะส่งลูกไปปฏิบัติธรรม พ่อแม่ควรเริ่มต้นด้วยการลองพาเขาไปวัด ทำบุญฟังธรรมแบบสบาย ๆ ดูก่อน เพื่อปรับตัวปรับใจเขาให้คุ้นเคยกับบรรยากาศในทางธรรม และพร้อมที่จะเข้าสังคมมากขึ้น แล้วค่อยเพิ่มดีกรีความเข้มข้นของกิจกรรมด้วยการพาเขาไปปฏิบัติธรรมหลักสูตรสั้น ๆ เช่น หลักสูตรครึ่งวัน หรือหลักสูตรหนึ่งวัน ก่อนจะค่อย ๆ เพิ่มระยะเวลาให้นานขึ้น
เด็กพิเศษ หากลูกหลานของคุณเป็นเด็กที่มีปัญหาทางด้านพัฒนาการ หรือมีความผิดปกติทางร่างกาย เช่น เป็นออทิสติก สมาธิสั้น หรืออื่น ๆ พ่อแม่ผู้ปกครองต้องเข้าใจ และยอมรับว่า บุตรหลานของตนต้องการการดูแลที่พิเศษกว่าเด็กปกติ การพยายามยัดเยียดให้เด็กเข้าสังคมกับคนปกติจึงไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก เพราะเด็กอาจจะไปสร้างความยุ่งยากให้ผู้อื่นที่มาปฏิบัติธรรม |
ฉะนั้น พ่อแม่จึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษกับการเลือกสถานที่ปฏิบัติธรรมให้เด็กกลุ่มนี้ โดยต้องหาข้อมูล และสอบถามไปยังสถานที่นั้น ๆ โดยตรงว่าสามารถรับเด็กพิเศษเข้าร่วมกิจกรรมได้หรือไม่ หรือหาคอร์สที่จัดไว้สำหรับเด็กกลุ่มนี้โดยตรง ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากกว่า เพราะได้วิทยากรที่มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กลักษณะนี้โดยเฉพาะ
เด็กใฝ่ธรรม หากลูกหลานของคุณเป็นเด็กที่สนใจธรรมะอยู่แล้ว หรือได้รับการปูพื้นฐานทางธรรมมาตั้งแต่เล็กจนเคยชินกับการปฏิบัติธรรม เช่น การนั่งฟังธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ หรือเดินจงกลม เพราะครอบครัวมีชีวิตวิถีพุทธมาโดยตลอด เด็ก ๆ กลุ่มนี้จะมีความพร้อมที่จะปฏิบัติธรรมสูงอยู่แล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถนำเขาเข้าสู่การปฏิบัติธรรมที่เน้นการปฏิบัติมาก ๆ ได้เลย เพื่อเป็นการต่อยอดทางธรรม และถ้าหากเด็ก ๆ ปฏิบัติธรรมได้ดี ทำสมาธิได้นาน พ่อแม่อาจจะลองให้เขาไปเข้าร่วมปฏิบัติธรรมในคอร์สสำหรับผู้ใหญ่ก็ได้
*** หลักคิดก่อนพาลูกไปพบ “ธรรม” สำหรับหลักคิดที่พ่อแม่ควรทราบก่อนการพาลูกไปพบธรรม มีอยู่ไม่กี่เรื่อง ข้อแรกคือ การหลอกล่อ หรือบังคับให้เด็กมาปฏิบัติธรรม เป็นสิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรทำ เพราะเด็กจะมีปฏิกิริยาต่อต้านจนอาจเกิดผลเสียกับตัวเด็กเอง ในขณะเดียวกันก็อาจสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ปฏิบัติคนอื่น ๆ ด้วย
วิธีที่ดีที่สุดในการเตรียมเด็กให้พร้อมก่อนไปปฏิบัติธรรมก็คือ การพยายามพูดคุยทำความเข้าใจกันว่า เพราะอะไรพ่อแม่จึงอยากให้เขาไปปฏิบัติธรรม มีประโยชน์ต่อเขาอย่างไร และหากเป็นไปได้ก็ควรพาเขาไปดูสถานที่จริง หรืออธิบายให้เห็นภาพ เด็กสมัยนี้ส่วนมากโตเร็ว ค่อนข้างมีเหตุผล และเป็นตัวของตัวเอง จึงไม่ต้องการให้ใครมาบังคับจิตใจ
ทางที่ดีพ่อแม่ควรจะพูดกับลูกอย่างตรงไปตรงมาถึงเหตุ และผลของการปฏิบัติธรรม และไม่ควรหว่านล้อมเขาด้วยปัจจัยภายนอก หากพ่อแม่ได้พยายามพูดคุยกับเขาจนถึงที่สุดแล้ว แต่เด็กยืนยันว่าเขาไม่ต้องการไป ก็ต้องยอมรับการตัดสินของเขา
|
| ขอบคุณ มีสาระดอทคอม 11223344- moderator
- จำนวนข้อความ : 317
วันที่สมัคร : 10/11/2010 อายุ : 28 อาชีพ : ไรเดอร์ งานอดิเรก : ซ่อมคอม...เเละปราบปีศาจ
-
Minako Sun Feb 13, 2011 7:27 pm สุดยอดของความรู้ขอบคุณนะครับ Minako- members lv 2
- จำนวนข้อความ : 58
วันที่สมัคร : 07/02/2011 อายุ : 28 อาชีพ : นักเรียน งานอดิเรก : เล่นอินเตอร์เน็ต-ไปซื้อของ-ทำงานพิเศษ
-
11223344 Mon Feb 14, 2011 4:10 pm ขอบคุณคับบบบบ 11223344- moderator
- จำนวนข้อความ : 317
วันที่สมัคร : 10/11/2010 อายุ : 28 อาชีพ : ไรเดอร์ งานอดิเรก : ซ่อมคอม...เเละปราบปีศาจ
-
Permissions in this forum: คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
แลกลิงค์เว็ป โค้ดเว็ปเรา
Code: | <a target="_blank" href="http://l-love.forum8.biz"><img src="http://d.imagehost.org/0239/l-love.gif" border="0" width="88" height="34" alt="l-loveบอร์ดแห่งความสุข" /></a> |
|